ฟ้าสมิงฅำหลวง
ตำนานฟ้าสมิงฅำหลวง
ลักษณะของจดหมายลูกโซ่ในอดีต มักจะกล่าวถึงเรื่องร้ายๆ ที่อาจเกิดขึ้น หากผู้ที่ได้รับไม่ได้ปฏิบัติตามข้อความที่กล่าวไว้ในจดหมาย อย่างไรก็ดี ตำนานฟ้าสมิงฅำหลวงที่คัดลอกมานี้ มีคุณค่าในแง่ที่สอนให้ผู้ที่ได้รับอยู่ในศีลในธรรมตามอย่างพุทธศาสนิกชนที่ดี
โดยนำเอาความเชื่อเข้ามากระตุ้นให้เกิดการปฏิบัตินั่นเอง
ตำนานฟ้าสมิงฅำหลวง เป็นตำนานบันทึกไว้ในใบลาน จากต้นฉบับของวัดบ้านช่าง อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ จารไว้เมื่อปีจุลศักราช ๑๒๘๓ (พ.ศ.๒๔๖๔) ปีร้วงเล้า เดือน ๑๒ ออก ๗ค่ำ วันพฤหัสบดี ยามเที่ยง
ผู้จารชื่อปัญญติกภิกขุ กาวิไชยวังโส วรรณกรรมเรื่องนี้มีลักษณะอย่าง "จดหมายลูกโซ่" ที่ชวนให้คนคัดลอกต่อ ๆ กันไปเพื่อเก็บไว้ในบ้านเรือน เนื่องจากกล่าวว่า อานุภาพของตำนานฟ้าสมิงฅำหลวง ซึ่งพระอินทร์ประทานมาให้นี้จะช่วงให้คนพ้นภัยพิบัติต่างๆ ได้
โดยที่คนที่ได้รับมาจะต้องคัดลอกไว้และขยายต่อไปยังผู้อื่นด้วย
...ไชยยะมังคลัง ศักราชะได้ ๑๒๗๐ ตัวปี เดือน ๕ เพ็ญ พระอินทร์ได้มาประพาสสวนและทรงเห็นว่าคนทั้งหลายจะเกิดภัยอุบาทว์มากนักก็สงสาร จึงได้ทำหนังสือใส่ไว้ในพับฅำแดง คือตำราอันเป็นคำสอนที่มีค่าดั่งทองคำสุกปลั่ง
แล้วหย่อนหนังสือนั้นลงมาที่ ธาตุทะโค่ง(เจดีย์ชะเวดากอง) ว่าในเดือน ๑๐ เพ็ญ ฝนจักตกในเมืองชุมพูทวีป จะเกิดอุบาทว์และโรคภัยทั่วไป ผู้คนจะล้มตายด้วยอหิวาตกโรคมากนัก สักราช ๑๒๕๐ คนทั้งหลายจะชิงทรัพย์กัน โลภเอาที่บ้านที่นา โกงตาชั่งขี้ขโมย ฆ่าฟันกัน และชอบดื่มเหล้าและยาเสพย์ติด ไม่รู้จักพระรัตนตรัย ไม่เคารพยำเกรงผู้มีอายุ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ภิกขุและสังฆะสามเณรทังหลายก็จักค้าขายกิน ไม่ปฏิบัติตามคลองธรรม จะล้มตายด้วยโรคต่างๆ ผู้หญิงก็จักตายเพราะตกเลือด หากลงน้ำเงือกก็จะกิน เข้าป่าก็จะถูกเสือกัด จะตกตายกันมากใน จ.ศ. ๑๒๕๕ เป็นต้นไปจะเกิดศึก ให้คนทั้งหลายหมั่นทำบุญรักษาศีลจึงจะพ้นภัยที่กล่าวมา
ศักราช ๑๒๔๐ จะเกิดโรคห่าระบาด สามีภรรยาจะทะเลาะกัน น้ำและดินก็ไม่สม่ำเสมอกันควรจะมีแดดก็กลับมีฝน ถึงยามควรมีฝนก็กลับมีแดด ทำการเกษตรลำบาก เกิดข้าวยากหมากแพง จะหาคนสืบศาสนาไม่ได้
ในศักราช ๑๒๘๐ (พ.ศ.๒๔๖๑)นั้น พระอินทร์และท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ จะลงมาเลียบเล็งดูโลก จะมารักษายังสังฆะและคนทั้งหลายฝูงใจบุญรักษาศีล ๕ ศีล ๘ และผู้ที่จำเริญคาถาฟ้าสมิงฅำหลวงอันนี้จะไม่ฉิบหายด้วยภัย ยิ่งกว่านั้นคนใจบาปทั้งหลายก็จะตายเพราะการศึกครั้งใหญ่ที่มาจากทิศตะวันตกและกลายเป็นอาหารแก่อมนุษย์ทั้งหลาย ครั้งนั้นจะเหลือแต่ผู้มีบุญ จะเกิดกันดารอาหารทั่วไปในศักราช ๑๒๘๐ นั้นเราซึ่งเป็นพระอินทร์ก็รู้สึกสงสารคนทั้งหลายมากนัก ให้พร้อมกันบูชาเอาธัมม์เจ้าฟ้าอันนี้ด้วยวัตถุข้าวของเงินฅำเสื้อผ้าตามศรัทธา หาได้ทังดอกไม้และลำเทียนมีเงินร้อยดอกไม้ฅำร้อยช่อร้อยทุงร้อย ข้าวร้อยก้อน เทียนเล่มบาทเล่มเฟื้อง ประทีปกล้วยอ้อยหมาก พลู ยา ยกขึ้นใส่พานแล้วจงฟังด้วยศรัทธา จึงจะพ้นภัยทั้งมวล แล้วพากันสวาธิยายคาถาอันกล่าวแล้วแต่ภายหลัง แล้วจงพากันรักษาศีลฟังธรรมแล้วบูชาเอามาไว้พิทักษ์รักษาเหย้าเรือน หากเราซึ่งเป็นพระอินทร์มาตรวจดูโลกและได้พบหนังสือ เจ้าฟ้าสมิงฅำ อันนี้อยู่บ้านใดเรือนใด เมืองใด บุคคลฝูงนั้นก็หากจักได้พ้นจากภัยอย่างแท้จริง จะไม่ได้พบข้าศึกและหมากเห็บทั้งหลายที่ว่านั้น
ReplyDeleteเดือน ๕ ออก ๕ ค่ำ ศักราช ๑๒๗๐ ตัว จะมีข้าศึกฮ่อยกมาหลายครั้ง ไม่มีผู้ใดจะสามารถเอาชนะได้ แต่จะมึผู้หนึ่งชื่อ ขุนพยัคฆะ มาปราบข้าศึกฮ่อทั้งหลายเหล่านั้น เราพระอินทร์ให้หนังสือไว้เพื่อเตือนคนทั้งหลายให้พ้นภัย คนทังหลายให้สวาธิยายคาถาของเราพระอินทร์ทุกค่ำเช้าวันคืนเทอะ ว่าดั่งนี้
" นิวิเกกรมฺพทเกหิ โปตรตกุํ ตโคยนํ วิอาติตพฺพทา สมนา สสหกรกํ ทุปาสนฺตุ มเค กปาโทน รํรริตขา โปริรา สิเมยฺยรุณฺณ" มาแต่สำนักพระพุทธเจ้าเมื่ออยู่สำราญในป่าเชตวนอาราม ให้คนทั้งหลายคัดเอาด้วยตนเอง หากทำไม่ได้ก็ให้ผู้อื่นเขียนให้ แล้วให้ปิดไว้เพื่อเคารพบูชาก็จะสมปรารถนาทุกอย่าง
ประการ ๑ ให้เอาหนังสือ ฟ้าสมิงฅำหลวง บทนี้ว่า "พุทฺโธ ธมฺม สงฺฆะ สุปตฺตา ริเทวดา สมณสสันตุ"
สวาธิยายว่าดั่งนี้แล้วก็จักพ้นจากภัยทั้งหลายอันกล่าวมานี้แล "จุ่งหื้อได้แต้มเขียนเอาไว้ชู่อย้าวเรือนเนอ" หากพระอินทร์มาตรวจดูแล้วพบว่า หนังสือฟ้าสมิงฅำหลวงดวงนี้อยู่ที่บ้านใดเรือนใดเมืองใด ก็ย่อมจะเป็นสิ่งที่ดี แต่หากไม่พบหนังสือนี้แล้วก็จะเกิดภัยในปีศักราช ๑๒๘๐ ตั้งแต่ศักราช ๑๒๕๐ ไปถึงศักราช ๑๒๘๕ นั้นก็จะเกืดเดือดร้อนทั่วไป ยกเว้นผู้ที่มีศีลอยู่เสมอเท่านั้น หญิงชายผู้ใดที่ยกย่องพระรัตนตรัยและฟ้าสมิงฅำหลวงของเราพระอินทร์แล้วจะพ้นโรคภัยทั้งหลาย
ในศักราช ๑๒๘๐ นั้น จะมีผู้หนึ่งชื่อ พยัคฆปทุมมะ "ขุนเสือ" มาปราบข้าศึกฮ่อและต่างชาติต่างภาษา หลังจากนั้นแล้วก็จะพ้นภัย ทำมาหากินได้โดยสะดวก บ้านเมืองศาสนาก็รุ่งเรือง อายุของคนก็จะยืนได้ถึงหนึ่งร้อยปี ชายหญิงทั้งหลายอย่าเพียงแต่ฟังเฉยๆ เท่านั้น เพราะอีกไม่นานนักก็จะประจักษ์ความจริงแล้ว
" ตำนานฟ้าสมิงฅำหลวง ตกแต่ฟ้าลงมาก็สมเร็จเสด็จ บัวระมวล เท่านี้ก่อนแล เจ้าที่ไหว้เหยฯ "
"จุลศักราชได้ ๑๒๘๓ ตัวปีระกา สนำกัมโพชชะภิไสร ตามขอบไขย เข้ามาใน อยํวสฺสานา พระปักขะคุรุวารไภงไทยภาษาว่าปีร้วงเล้า เดือน ๑๒ ออก ๗ ค่ำ เมงวัน ๕ ยามเที่ยง บัวระมวลแก่ข้า นามปัญญติภิกขุหนุ่ม กาวิไชยวังโส อกพุทโธ ตัวบ่งาม ข้าเขียนตัวบ่งามสักกลาย ปุนดีอายกับเพิ่นแล เจ้าเหย เพราะว่าบ่ใช่ชาติเชื้อเครือนายเสมียน บ่ได้ร่ำเรียนเฝิกมาแต่หน้อย จักเหยาะเปนสายยายไปเป็นถ้อย เพราะปัญญาเราบ่นัก แลฯ"