พงศาวดาร
พงศาวดาร คือ
พงศาวดาร เป็นคำรวมระหว่าง พงศ กับ อวตาร ซึ่งหมายความว่า การอวตารของเผ่าพันธุ์
บางแห่งเขียนว่า พระราชพงศาวดาร ในที่นี้หมายความถึง การอวตารของเทพเจ้าในศาสนาฮินดู
(พระนารายณ์) ดังนั้น พงศาวดารจึงเป็นเรื่องราวที่บันทึกเหตุการณพระมหากษัตริย์ผู้เป็นประมุขของประเทศชาตินั้น
หรือพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ที่เกี่ยวกับประเทศชาติหรือศาสนาเป็นส่วนใหญ่
พงศาวดารในฐานะหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ปัจจุบันมีการถกเถียงกันเรื่องความน่าจะเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า เป็นหลักฐานชั้นต้นหรือหลักฐานชั้นรอง
เพราะมีการเขียนพงศาวดารหลายฉบับในลักษณะที่คล้ายกันแต่แตกต่างกันในเนื้อหาและรายละเอียดประกอบ
กับการใช้ศักราชในพงศาวดารไม่สอดคล้องกันบางใช้ มหาศักราช บางใช้จุลศักราช และพงศาวดารมีการเขียนขึ้นภายหลังเหตุการณ์
เช่น พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ
(พ.ศ.2223) เขียนขึ้นใน สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แต่กล่าวถึงก่อนการสถาปนากรุงศรอยุธยา เป็นต้น
พงศาวดารหลักๆในเมืองไทยมีหลายเล่ม
เล่มที่จัดได้ว่าเก่าที่สุดคือ พงศาวดารกรุงเก่า หลวงประเสริฐอักษรนิติ์ เหตุที่เรียกพงศาวดารฉบับนี้ว่าเป็นฉบับหลวงหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ เพราะต้องการจะให้เกียรต์แก่หลวงประเสริฐอักษรนิติ์หรือ
พระยาปริยัติธรรมธาดา
(แพ เปรียญ) ซึ่งเป็นผู้ค้นพบเอกสารสำคัญชิ้นนี้
โดยเมื่อครั้งที่ยังคงเป็น หลวงประเสริฐอักษรนิติ์ ไปได้จากบ้านราษฎรแห่งหนึ่งแถบเพชรบุรีแล้วเอามามอบให้หอสมุดวชิรญาณ
เมื่อ ณ วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2450 หนังสือพงศาวดารฉบับนี้เป็นสมุดไทยเขียนตัวตรง
ลายมือเขียนหนังสือเหมือนจะเป็นฝีมือครั้งกรุงเก่าตอนปลายหรือครั้งแรกตั้งกรุงรัตนโกสินทร์
ของเดิมมี 2 เล่มจบ แต่ได้มาเล่ม 1 เล่ม
กรรมการหอสมุดวชิราญาณได้ตรวจพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นหนังสือเก่าอย่างไม่มีเหตุผลอย่างใดควรสงสัย
จึงได้มีการจัดพิมพ์เผยแพร่
หรืออย่างฉบับคำให้การของขุนหลวงหาวัด
และฉบับคำให้การของชาวกรุงเก่า ก็เป็นเอกสารที่ได้มาจากฝั่งพม่า ในสมัยก่อนนั้นหากได้เมืองไหนแล้วก็จะนำตัวของคนในเมืองนั้นมาสอบถามถึงความเป็นมาและจารีตประเพณีต่างๆ
เพื่อจดบันทึกไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
นอกจากตัวอย่างพงศาวดารที่ยกตัวอย่างดังกล่าวข้างต้นแล้วยังคงมีปรากฏพงศาวดารอีกหลายๆฉบับที่มักถูกอ้างถึงเมื่อมีการพูดคุยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ผู้จดบันทึก
และช่วงเวลา เช่น