Showing posts with label อริยสัจที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ. Show all posts
Showing posts with label อริยสัจที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ. Show all posts

Thursday 31 May 2012

อริยสัจที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

อริยสัจที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ จัดว่าเป็นยอดของธรรม อริยสัจตัวนี้เป็นตัวบรรลุมรรคผล อริยะ แปลว่าประเสริฐ หรือสะอาดหมดจดบริสุทธิ์ สัจจะ แปลว่าความจริง ที่เข้าถึงความสะอาดหมดจด หรือความประเสริฐนี้ได้ หรือจะแปลว่าความจริงที่พระอริยเจ้าทรงค้นพบก็ได้ หรือพระอริยเจ้าทรงเห็นแล้วก็ได้ ว่ายังไงก็ได้ คำแปลไม่สำคัญ สำคัญว่าเราเข้าถึงอริยสัจหรือเปล่า ตัวนี้สำคัญ อย่ามัวไปเถียงกันเรื่องคำแปล แปลว่ายังงั้นถูก แปลว่ายังงั้นผิด แต่ไอ้ใจของเรามันคิดถูกหรือคิดผิด มันปลงถูกหรือปลงผิด ดีกว่าไปเถียงกันเรื่องคำแปล อริยสัจนี้มีอยู่ 4 อย่าง คือ ทุกขสัจ สมุทัยสัจ นิโรธสัจ มรรคสัจ มี 4 อย่างด้วยกัน จะพูดถึงทุกขสัจ สัจจะ แปลว่าความจริง ทุกขะ แปลว่าทนได้ยาก อะไรก็ตามที่จำจะต้องทน สิ่งนั้นเป็นทุกข์ทั้งนั้น แล้วก็อย่ามานั่งเถียงกันนาว่า อะไรบ้างต้นทนอย่างที่กำลังนั่งอยู่ก็ดี กำลังนอนอยู่ก็ดี ฟังอยู่ก็ดี ถ้านั่งตามสบายยังไม่ทุกข์ ถ้าถึงกับต้องทนนั่งละก็เป็นทุกข์ละ ถ้ารู้สึกปวดโน่นเข้ามานิด ปวดนี่เขามาหน่อย เมื่อยโน้นเข้ามานิด เมื่อยเข้ามาหน่อย อันนี้ก็เป็นทุกข์ เพราะมันต้องทน หรือบางท่านที่กำลังนั่งฟังอยู่นี่ บางคนก็เป็นไข้หวัดลงคออย่างผม เสียงแหบเสียงแห้งมีเสมหะที่คอไม่หลุด อาการรำคาญเกิดขึ้น อย่างนี้มันเป็นทุกข์ นี่เป็นอาการของความทุกข์ ผมชี้ทุกข์กันเลยนะมันเป็นความจริง สัจจะแปลว่าความจริง มันทุกข์จริง ๆ ถ้าจะมาบอกว่านี่มันยังทนได้ไม่ชื่อความทุกข์ ถ้าหากท่านที่กำลังนั่งฟังอยู่นี่ หิวข้าวหิวน้ำขึ้นมาก็เกิดควาทุกข์ เห็นหรือยังว่ามันทุกข์ ทีนี้ถ้าปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะก็เป็นทุกข์ อย่าทนนะ ถึงทนก็ทนได้ยาก ทนได้ไม่นานก็ต้องไปปล่อยมัน ถ้าความหนาวปรากฏ ความร้อนปรากฏ ความกระสับกระส่ายปรากฏ นี่ก็เป็นอาการของความทุกข์